วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Hypnobirth

การสะกดจิตบำบัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ (Hypnobirth)



Hypnobirth หรือ การสะกดจิตบำบัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นการสะกดจิตบำบัดที่มีจุดประสงค์ในการช่วยเหลือคุณแม่ทั้งหลายให้สามารถคลอดลูกเองโดยวิธีธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องตื่นกลัวหรือเจ็บปวดแต่อย่างใด โปรแกรม hypnobirth ถูกออกแบบมาเพื่อมอบคำแนะนำให้กับจิตใต้สำนึกของเหล่าคุณแม่ให้เชื่อมั่นในวิถีของธรรมชาติ เมื่อความเชื่อมั่นเกิดขึ้นร่างกายและจิตใจก็จะสามารถผ่อนคลายได้แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เจ้าตัวน้อยกำลังจะออกมาสู่โลกใบนี้ โปรแกรมนี้สามารถช่วยให้คุณแม่คลอดลูกตามวิธีธรรมชาติได้ด้วยความภาคภูมิใจ สงบ ผ่อนคลาย อบอุ่น และสามารถควบคุมตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พวกเธอได้ดื่มด่ำกับรางวัลที่ธรรมชาติได้มอบให้อย่างเต็มที่ จดจำช่วงเวลาที่แสนจะน่าประทับใจได้ในทุก ๆ วินาทีโดยไม่ต้องผ่านการกรีดร้องอย่างเจ็บปวดอีกต่อไป

ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา การทำ hypnobirth หรือการสะกดจิตบำบัดเพื่อคลอดลูกกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คุณแม่ทั้งหลายที่ประเทศอังกฤษ แม้กระทั่งเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัลเองก็ใช้โปรแกรม hypnobirth เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างคลอดเช่นกัน
แม่ ๆ ที่ใช้โปรแกรม hypnobirth นี้ จะสามารถคลอดลูกเองแบบธรรมชาติโดยเจ็บปวดน้อยที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาระงับความปวดใด ๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่หลาย ๆ คนแทบจะไม่มีความเจ็บปวดเลยด้วยซ้ำ โปรแกรมนี้ช่วยให้พวกเธอสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเธอ (และร่างกายของเธอ) กำลังจะต้องเจอ  พวกเธอจะสามารถเอาชนะความหวาดกลัว ความวิตกกังวลต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง  สิ่งเหล่านี้จึงช่วยให้บรรดาคุณแม่ ๆ ที่ใช้โปรแกรม hypnobirth สามารถผ่านประสบการณ์อันสวยงามที่สุดที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างมาให้กับพวกเธออย่างสงบ ผ่อนคลาย และปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโปรแกรม hypnobirth ไม่ได้อยู่ที่การทำให้คุณแม่สามารถคลอดลูกเองโดยไม่ต้องเจ็บปวด แต่ความน่าทึ่งของมันอยู่ที่ลูกน้อยของพวกเธอต่างหาก เมื่อการคลอดเป็นการคลอดที่แสนสงบ อ่อนโยน และปลอดจากยาสำหรับคุณแม่ นั่นก็หมายถึงมันย่อมเป็นการคลอดที่แสนสงบ อ่อนโยน และปลอดจากยาสำหรับเจ้าตัวน้อยของพวกเธอเช่นกัน  การคลอดเป็นประสบการณ์แรกของทารกทุก ๆ คน และประสบการณ์แรกนี้ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของพวกเขาในอนาคต เมื่อการคลอดเป็นไปอย่างสงบ มันจึงทำให้เหล่าทารกมีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย สงบ พัฒนาการไว หลับง่าย และโตเร็ว
โปรแกรมนี้ได้พิสูจน์ตัวเองหลายต่อหลายครั้งแล้วว่ามันสามารถช่วยให้คุณแม่ทั้งหลายสามารถมีประสบการณ์คลอดตามธรรมชาติได้อย่างสงบ เหมาะสม และยอดเยี่ยมที่สุด





ศูนย์ให้คำปรึกษาและสะกดจิตบำบัด



วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความถนัดของระบบประสาท

คนเราเกิดมาด้วยถนัดที่แตกต่างกัน การใช้งานระบบประสาทในการรับรู้และเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ ในคนแต่ละคนก็มีความถนัดที่แตกต่างกันออกไป

ใน NLP แบ่งความถนัดในการใช้ระบบประสาทรับรู้ข้อมูลต่างๆ ของมนุษย์อกเป็น 3 พวกใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ถนัดการรับรู้ด้วยภาพ(V) ถนัดการรับรู้ด้วยเสียง(A) ถนัดการรับรู้ด้วยสัมผัส(K)

คนเราโดยส่วนใหญ่ถนัดการรู้ด้วยภาพมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพราะว่าในชีวิตประจำวันเราใช้ประสาทสายตาในการรับรู้สิ่งต่างๆ มากที่สุด การทำความเข้าใจด้วยการมองเห็นจึงเป็นความถนัดที่คนส่วนใหญ่มี ดังนั้นอย่างแปลกใจที่การบรรยายอธิบายต่างๆ จึงมีคำแนะนำให้มีภาพประกอบควบคู่ไปด้วยเพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ของผู้รับให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

คนอีกส่วนหนึ่งถนัดการรับรู้ด้วยเสียง คำว่าเสียงในที่นี้เสียงที่เราได้ยินและเสียงที่เกิดจากการนึกคิดทบทวนภายในหัวของเรา ดังนั้นสำหรับคนกลุ่มนี้ เหตุผล ข้อมูล รวมไปถึงการตั้งคำถามต่างๆ จึงเป็นตัวกระตุ้นให้เขาเกิดการซึมซับการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่

อีกส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะน้อยที่สุดนั่นก็คือถนัดทางการสัมผัส หมายถึงจะต้องมีการสัมผัสหรือลงมือทำด้วยตนเองจึงจะเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่

การใช้สื่อให้ถูกต้องกับความถนัดของผู้รับสารนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าต้องการให้การสื่อสารมันง่าย ก็ควรเลือกใช้สื่อที่ถูกต้องกับความถนัดของผู้รับสารด้วยครับ




ศูนย์ให้คำปรึกษาและสะกดจิตบำบัด


Hypnosis and Neuro Science

ถ้ามองในมุมมองของประสาทวิทยา (Neuro Science) เมื่อสมองของเราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มันจะสร้างสารสื่อประสาทหรือนิวรอนขึ้นมาบันทึกข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ เมื่อสมองของเราทำงานมันจะเรียกข้อมูลต่างๆ กลับมาใช้ใหม่จากบรรดานิวรอนนับล้านๆ ตัวที่เราได้สะสมเอาไว้ (ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทำอะไรก็ตามที่เรายังไม่เคยรู้ได้) 

ถ้าเราได้เรียนรู้เรื่องนั้นซ้ำๆ หรือมีการใช้งานข้อมูลเรื่องนั้นบ่อยๆนิวรอนที่บรรจุข้อมูลนั้นเอาไว้ก็จะเจริญเติบโตขึ้นตามจำนวนครั้งที่มันถูกใช้งานหรือได้รับการบันทึกซ้ำ

ในที่สุดเมื่อนิวรอนตัวนั้นเจริญเติบโตจนถึงจุดหนึ่ง มันก็จะเริ่มทำงานแบบอัตโนมัติ ทำงานอย่างรวดเร็ว ก่อนและเหนื่อนิวรอนตัวอื่นๆ

นั่นคือจุดที่เกิดสิ่งที่เรียกว่าจิตใต้สำนึก

สำหรับกระบวนการ Hypnosis มันว่าด้วยเรื่องของการสร้างนิวรอนตัวหนึ่งขึ้นมา และเลี้ยงมันให้โตที่สุดด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ โดยผ่านเงื่อนไขกระบวนการต่างๆ ที่เราทำในระหว่างทำ Hypnosis ครับ




ศูนย์ให้คำปรึกษาและสะกดจิตบำบัด


NLP Notation Strategy


• V = Visual การมองเห็นภาพ
• Vi = Visual Internal การมองเห็นจากภายใน
• Ve = Visual External การมองเห็นภาพจากภายนอก
• Vir = Visual Internal Remember การมองเห็นจากภายในด้วยความทรงจ
• Vic = Visual Internal Constructed การมองเห็นจากภายในด้วยการสร้างสรรค์
• Vd = Visual Digital การมองที่ผสมผสานกันระหว่างความจำและสร้างสรรค์ เช่นการอ่านหนังสือ

• A = Auditory การได้ยินเสียง
• Ai = Auditory Internal การได้ยินเสียงจากภายใน
• Ae = Auditory External การได้ยินเสียงจากภายนอก
• Air = Auditory Internal Remember การได้ยินเสียงจากภายในด้วยความทรงจำ
• Aic = Auditory Internal Constructed การได้ยินเสียงจากภายในด้วยการสร้างสรรค์
• At = Auditory Tonal เสียงที่ได้ยิน
• Ad = Auditory Digital ถ้อยคำที่ได้ยิน
• Aid = Auditory Internal Dialogue เสียงพูดกับตัวเอง

• K = Kinesthetic การรู้สึกสัมผัส
• Ki = Kinesthetic Internal การรู้สึกสัมผัสจากภายใน
• Ke = Kinesthetic External การรู้สึกสัมผัสจากภายนอก
• Kir = Kinesthetic Internal Remember การรู้สึกสัมผัสจากภายในด้วยความทรงจำ
• Kic = Kinesthetic Internal Constructed การรู้สึกสัมผัสจากภายในด้วยการสร้างสรรค์
• K+ = Kinesthetic Positive ความรู้สึกที่เป็นบวก รู้สึกดี
• K- = Kinesthetic Negative ความรู้สึกที่เป็นลบ รู้สึกไม่ดี
• Km = Feeling about the last step (Meta Feelings) ความรู้สึกสุดท้าย




ศูนย์ให้คำปรึกษาและสะกดจิตบำบัด


Double Bind

สมัยก่อนจำได้ว่าไปกินข้าวแถวๆท่าพระจันทร์ พอสั่งข้าวเสร็จลุงเจ้าของร้านที่เป็นคนรับออเดอร์ก็ยิงคำถามมาว่า "ชาดำเย็นหรือโค้กครับ" ยิงมาแบบนี้ จะหาคนรอดตายตอบว่าน้ำแข็งเปล่าได้นั้นคงจะมีไม่เยอะนัก กลยุทธการเพิ่มยอดของลุงแกที่ว่านี้ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Double Bind ใน NLP ซึ่งปรากฏอยู่ทั้่งใน Meta Model และ Milton Model

คำว่า Double Bind นั้นหมายถึงการที่เรากำลังถูกบีบบังคับด้วยทางเลือกเพียง 2 ทาง ซึ่งทำให้เราต้องเลือกอย่างหนึ่งอย่างใดด้วยความจำยอม ซึ่ง NLP มองว่าโดยพื้นฐานแล้วมันเป็นสัญญาณของปัญหา

วอจิเนีย ซเทียร์ ปรมาจารย์นักครอบครัวบำบัดผู้เป็นหนึ่งในโมเดลที่สำคัญของ NLP กล่าวว่า มันจะดีเสมอถ้าเรามีทางเลือกมากกว่าสองขึ้นไป การมีแค่สองหรือน้อยกว่านั้นเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่าปัญหา

ในจิตใจของเราก็เช่นกัน บ่อยครั้งที่เราปล่อยให้เกิดสภาวะ Double Bind ขึ้น คือกำหนดทางเลือกเอาไว้แค่สองทางอย่างตายตัว ไม่สามารถปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นไปสู่ทางเลือกที่สามได้ ซึ่งมันจะแสดงออกมาในรูปของคำพูดที่ใช้กล่าวถึงปัญหาบางอย่าง เช่น

"ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้น ฉันก็ต้องแย่" คือมีแค่สองทางระหว่างทำอย่างนั้นกับแย่ ไม่มีอย่างนู้น อย่างโน้น อย่างนี้หรืออย่างไหนให้เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมอีก

ใน Meta Model ของ NLP แนะนำให้ทำลายความเป็น Double Bind ในใจทิ้งไปด้วยคำถามที่กระตุ้นเตือนให้รู้ว่ามันไม่จำเป็นจะต้องมีแค่สองทาง ทางอื่นๆ ก็มีได้ถ้ายอมยืดหยุ่นเสียหน่อย เมื่อสภาวะ Double Bind ถูกทำลายไป ปัญหาความยุ่งยากในใจก็ถูกคลี่คลายตามไปด้วย

ส่วน Milton Model ของ NLP นั้นทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะบ่อยครั้งในภาวะการสะกดจิต(Hypnosis) นักสะกดจิตจะใช้ถ้อยคำในลักษณะที่เป็น Double Bind เพื่อบีบให้ผู้รับการสะกดจิตยอมจำนนต่อตัวเลือกที่พวกเขาสร้างขึ้นน ซึ่งไม่ว่าจะเลือกอันไหนก็เข้าทางทั้งนั้น

ไม่ต่างอะไรจากคุณลุงเจ้าของนั้นเลย 






ศูนย์ให้คำปรึกษาและสะกดจิตบำบัด