วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ลับดับขั้นตอนการเรียนรู้ (Step of Learning)

มนุษย์ใช้เวลาทั้งชีวิตในการในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ การเรียนรู้บางอย่างก็อยู่ในระดับจิตสำนึกในขณะที่การเรียนรู้บางอย่างก็ลงลึกลงไปในระดับจิตใต้สำนึก ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและปัจจัยทั้งที่เป็นส่วนของตัวของผู้เรียนรู้เองและเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดนั้นว่ามันเอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นในระดับไหน

สำหรับ NLP เราแบ่งแยกการขั้นตอนเรียนรู้ของมนุษย์ออกเป็นสามช่วงด้วยกัน คือ
  1. Unlearning หรือภาวะที่ยังไม่เรียนรู้ต่อสิ่งนั้นๆ เช่นถ้าคุณไม่เคยเดินเหยียบหนามมาก่อนคุณก็จะไม่มีวันรู้ว่าการเดินเหยียบหนามนั้นมันเจ็บขนาดไหน
  2. Learning หรือภาวะช่วงขณะที่กำลังเรียนรู้ซึ่งก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ เช่นเดินเหยียบหนามไปแล้วจึงรู้ว่ามันเจ็บ ซึ่งจะนำมาสู่ความรู้ที่ว่าเมื่อเดินเท้าเปล่าเราควรระวัง หรือเราไม่ควรเดินถอดรองเท้า หรือเมื่อถูกหนามตำเท้าเราควรเอาหนามออก หรืออะไรอื่นๆ อีกสุดแท้แต่รายละเอียดของเหตุการณ์นั้นๆ
  3. Relearning หรือการเรียนรู้ซ้ำ เช่นในวันหนึ่งเราเดินเท้าเปล่าแล้วหนามก็ตำเท้าอีก กระบวนการนี้ทำให้เกิดการย้ำข้อมูลลงไปในระบบประสาทของเราว่า เราไม่ควรจะเดินเท้าเปล่าเป็นอันขาด ยิ่งเกิดการเรียนรู้ซ้ำมากขึ้นเท่าไหร่ปริมาณข้อมูลเรื่องนั้นๆ ก็ยิ่งเข้มข้นและฝังตัวลงลึกลงไปในจิตใต้สำนึก
เรื่องลำดับขั้นตอนทั้งสามนี้บอกกับเราว่า คนเรานั้นหากยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการเรียนรู้มากก่อน สิ่งนั้นๆ ย่อมไม่มีอยู่ในหัวของเขาเลย (อยู่ในขั้นตอน Unlearning) ดังนั้นจึงเป็นไม่ได้เลยที่เราหรือใครก็ตามจะบอกให้เขาเข้าถึงสภาวะแห่งการรู้ในสิ่งนั้นได้ เช่นสำหรับคนที่ไม่เคยได้รับชัยชนะเลย มันเป็นไม่ได้ที่ใครก็ตามจะมาปลุกเร้าให้เขาเข้าถึงสภาพอารมณ์หรือความรู้สึกแห่งผู้มีชัยชนะได้

ดังนั้นเพื่อที่จะไปให้ถึงจุดๆ นั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างเรียนรู้ต่อสิ่งนั้นขึ้นมาก่อนเพื่อให้เขา (ผู้รับการบำบัด) ผ่านกระบวนการ Learning เสียก่อน เช่นใช้เทคนิค Visualize สร้างประสบการณ์จำลองเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกของผู้มีชัยชนะ เมื่อผ่านกระบวนการเรียนรู้นี้แล้วความรู้สึกหรือสภาพอารมณ์ของผู้มีชัยชนะจะไม่ใช่ความว่างเปล่าหรือปริศนาดำมืดในความรับรู้ของเขาอีกต่อไป

ซึ่งนี่ก็จะเป็นบันไดก้าวแรกที่จะนำไปสู่ขั้นตอนของการเรียนรู้ซ้ำหรือ Relearning เพื่อสร้างความแน่นหนามั่นคงให้กับสภาพอารมณ์ที่เป็นบวกนั้นๆ จนผู้รับการบำบัดสามารถนำเอาสภาพอารมณ์ที่เป็นบวกนี้ไปใช้ในการพัฒนาความสำเร็จของตัวเองในลำดับต่อๆ ไป 

ในโลกนี้ไม่มีความล้มเหลว

ในโลกนี้ไม่มีความล้มเหลว มีแต่ผลที่รับรับเท่านั้น หลักการข้อนี้ของเอ็นแอลพีนั้นง่ายและตรงไปตรงมามาก สำหรับเอ็นแอลพีแล้วความรู้สึกล้มเหลวใดๆ ก็ตามไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่จริง เพราะมันเป็นเพียงความรู้สึกหรือสภาพอารมณ์ที่ถูกระบบประสาทสร้างขึ้นมาเท่านั้น และก็ดังที่กล่าวไปแล้วว่าแผนที่นั้นย่อมไม่ใช่พื้นที่จริง ดังนั้นสำหรับเหตุการณ์เดียวกันนี้หากเป็นบุคคลอื่นที่มีกลไกการตีความหมายแตกต่างออกไปเขาก็อาจจะไม่ได้ตีความหมายว่าเป็นการล้มเหลวก็ได้

ตัวอย่างเช่นถ้าวันนี้เราไปยืนขายแซนวิทอยู่หน้าตึกสำนักงานซักแห่งหนึ่ง จากเวลาห้าชั่วโมงคือตั้งแต่ตีห้ายันเก้าโมงเช้า แซนวิทห้าสิบชิ้นเราขายไปได้เพียงห้าชิ้นเท่านั้น แบบนี้เราความรู้สึกล้มเหลวก็อาจจะถูกสร้างขึ้นมาในระบบประสาททำให้เรารู้สึกท้อแท้ผิดหวัง เกิดความคิดว่าไม่เอาอีกแล้ว เสียเวลาแล้ว ไปหาอย่างอื่นทำดีกว่า ยืนขายตั้งนาน ได้แค่ห้าชิ้นซึ่งในความเป็นจริงแล้วเหตุการณ์ก็มีเพียงว่าวันนี้ใช้เวลาห้าชั่วโมงไปกับการขายแซนวิชไดดห้าชิ้น สำหรับเหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้นั้นมันยังไม่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อาจจะขายได้น้อยลง ขายได้เท่าเดิม หรือขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่ชั่วโมงแรกก็ได้ใครจะไปรู้
และในเหตุการณ์เดียวกันนี้คนอื่นอาจจะมีสภาพอารมณ์และความคิดที่แตกต่างออกไป อาจจะตีความหมายว่าวันแรก ขายได้ตั้งห้าชิ้นถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จก้าวของธุรกิจเล็กๆ ก็ได้อีกเหมือนกัน



ดังนั้นถ้าเกิดวันใดก็ตามที่เรารู้สึกว่าล้มเหลวในเรื่องใดก็ตาม ขอให้ทราบทันทีเลยว่า มันเป็นเพียงแต่สภาพอารมณ์ที่เป็นผลมาจากการตีความของโปรแกรมในระบบประสาทของเราเท่านั้น เพราะในความเป็ยจริงแล้ว ความล้มเหลว ...“มันไม่มีจริง”


Murray Bowen - Triangles (สามเส้า)

            “ที่ใดก็ตามที่มีคนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ย่อมมีการเมืองที่นั่น”

            Triangles หรือ สามเส้า นั้นหมายถึง ระบบครอบครัวที่เชื่อมบุคคล 3 คนเข้าด้วยกัน โดยเน้นถึงความผูกพันทางอารมณ์ทั้งทางบวกและทางลบ

เมื่อสมาชิกในครอบครัว 2 คน (ต่อไปนี้จะเรียก A และ B) เกิดความบาดหมางทางใจกันขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แล้ว A พยายามดึงสมาชิกครอบครัวคนที่ 3 (ต่อไปนี้จะเรียก C) ไปเป็นพวก (ซึ่งอาจเกิดจากสภาวะ Fusion) เพื่อให้สถานะและความรู้สึกของตนเองนั้นมั่นคงมากขึ้น เมื่อนั้นสามเส้าก็จะเกิดขึ้น