วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

The Switch

Switch หมายถึงการสลับสับเปลี่ยน สำรับ NLP แล้วเป็นเทคนิคแบบหนึ่งที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนสภาพอารมณ์ ความรู้สึก ตลอดจนทัศนะคติที่มีอยู่ในใจของบุคคล โดยจะค่อยๆ สร้างการเรียนรู้หรือประสบการณ์ใหม่เข้าไปแทนที่ประสบการณ์หรือสิ่งที่เรียนรู้เดิม

ทำอย่างไร


เมื่อจะทำ Switch นัก NLP จะใช้คำพูดโน้มน้าวให้เกิดความรู้สึกภายใน (Vi, Ai, Ki) ถึงบุลคลิกภาพหรือเรื่องราวของตัวเองที่เป็นต้นตอของปัญหา เช่น

  • “ให้มองเห็นภาพตัวเองที่นั่งเหงาอยู่กลางห้องที่มืดสนิทโดยมีแต่แสงไฟจากโคมไฟเล็กๆ เหนือหัวของคุณส่องลงมา”

ป๊อก (เสียงดีดนิ้ว)
  • “ทันใดนั้นภาพก็สลับ (Switch) ไปที่ห้องในงานเลี้ยงที่มีแสงไฟระยิบระยับ มีเสียงดนตรี เสียหัวเราะ มองเห็นตัวเองในชุดที่สง่างามมองเห็นผู้ต่างๆ มากหน้าหลายตาเข้ามาห้อมล้อมด้วยความชื่นชม”

ป๊อก (เสียงดีดนิ้ว)
  • “ภาพตัดกลับมาที่กลางห้องที่มืดสนิทที่มีแต่แสงไฟจากโคมไฟเล็กๆ เหนือหัวของคุณ แต่คราวนี้เป็นภาพแบบขาวดำ มองเห็นตัวเองที่นั่งเหงาอยู่กลางห้องโดยที่มันเป็นภาพขาวดำ”

ป๊อก (เสียงดีดนิ้ว)
  • “ทันใดนั้นภาพก็สลับ (Switch) ไปที่ห้องในงานเลี้ยงที่มีแสงไฟระยิบระยับ มีเสียงดนตรี เสียหัวเราะ มองเห็นตัวเองในชุดที่สง่างามมองเห็นผู้ต่างๆ มากหน้าหลายตาเข้ามาห้อมล้อมด้วยความชื่นชม”

ป๊อก (เสียงดีดนิ้ว)
  • “ภาพตัดกลับมาที่ภาพขาวดำ ในกลางห้องที่มืดสนิทที่มีแต่แสงไฟจากโคมไฟเล็กๆ คราวนี้ภาพเบลอมากจนคุณเห็นภาพไม่ค่อยชัดเจน มองเห็นตัวเองที่นั่งเหงาอยู่กลางห้องเป็นภาพเบลอๆ มองไม่ชัด”

ป๊อก (เสียงดีดนิ้ว)
  • “ทันใดนั้นภาพก็สลับ (Switch) ไปที่ห้องในงานเลี้ยงที่มีแสงไฟระยิบระยับ มีเสียงดนตรี เสียหัวเราะ มองเห็นตัวเองในชุดที่สง่างามมองเห็นผู้ต่างๆ มากหน้าหลายตาเข้ามาห้อมล้อมด้วยความชื่นชม”

ในตัวอย่างนี้ภาพภายในที่เป็นตัวต้นตอของปัญหาค่อยๆถูกทำให้หมดความสำคัญลงโดยการเปลี่ยนแปลง Submodality (จากสีก็เปลี่ยนเป็นขาวดำ จากขาวดำก็เปลี่ยนเป็นเบลอ) ของมันทุกๆ ครั้งที่ถูกสลับกับภายภายในใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้จิตใต้สำนึกเรียนรู้บุคลิกภาพใหม่ๆ เรียนรู้สภาพอารมณ์ใหม่ๆ ซึ่งจะค่อยๆ เข้าไปแทนที่ภาพภายในเดิมที่เป็นตัวต้นตอของปัญหา






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น