ลองนึกถึงว่าขณะนี้คุณกำลังยืนมองดูการแสดงผาดโผนที่เสี่ยงตายเอามากๆ เช่นการโชว์ลูกปืนใหญ่มนุษย์ เมื่อนักแสดงที่เป็นคนเป็นๆ ถูกบรรจุลงไปในปากกระบอกปืนใหญ่แล้วยิงออกไปสู่เป้าหมาย นี่เป็นเรื่องที่บ้าระห่ำและอันตรายอย่างที่สุดอย่างหนึ่งในโลกของการแสดงผาดโผนก็ว่าได้
“ทำไมนักแสดงจึงเลือกที่จะทำสิ่งนี้?”
เพราะเงิน เพราะชื่อเสียง หรือเพราะอะไรกันแน่ หากให้คุณเป็นคนที่จะต้องถูกบรรจุลงไปแทนล่ะ? คุณจะยอมทำมันหรือไม่?
เนื่องจากตัวอย่างนี้ดูอันตรายเสี่ยงตายมากเกินไป นี่ก็อาจจะเป็นตัวอย่างลำบากใจมากซักหน่อยที่จะต้องตอบคำถามว่าจะยอมทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้หรือไม่ ดังนั้นคราวนี้เราลองทำอะไรให้มันง่ายขึ้นอีกนิดเช่นการเดินเท้าเปล่าๆ ลุยไปบนกองไฟที่เป็นถ่านแดงๆ ประมาณ 3-4 ก้าว การกระทำแบบนี้คุณไม่ตายแน่ๆ แต่เท้าคุณอาจจะได้รับบาดเจ็บพุพองได้แน่ๆ เช่นกัน
คำถามก็คือว่า “คุณจะยอมทำสิ่งนี้หรือไม่?”
แน่นอนในภาวะปรกติคุณจะไม่ยอมทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้เด็ดขาด แต่ถ้ามันมีปัจจัยแวดล้อมอย่างอื่นมาเป็นตัวเร่งล่ะ? เช่นว่าถ้าคุณไม่เดินลุยไฟข้ามไปคุณอาจจะต้องตายอยู่ตรงนี้ด้วยจรเข้หิวโซตัวโตๆ คุณอาจจะต้องเสียคนที่คุณรักที่สุดไปตลอดการ หรือแม้แต่การได้รับรางวัลตอบแทนเป็นทองคำซักหนึ่งหีบใหญ่ๆ ปัจจัยพวกนี้อาจจะทำให้คุณและคนอีกหลายคนยินดีที่จะเดินลุยข้ามไฟไปได้อย่างไม่มีความลังเลอีกต่อไป
อะไรเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การ “ไม่ทำ” และ “ลงมือทำ” สำหรับเรื่องนี้
ความรักตัวเอง ความกลัวตาย ความเป็นห่วง ความโลภ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ขับดันไปสู่การตัดสินใจลงมือทำหรือไม่ทำทั้งสิ้น และสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็น “สภาวะอารมณ์” (Emotion) ที่ร่างกายของเราผลิตอกมาทั้งสิ้น
ถูกแล้วครับ มนุษย์จะทำหรือไม่ลงมือทำอะไร ถึงแม้ว่าจะมีเหตุผลมาประกอบมากมายกก่ายกองแค่ไหนก็ตามแต่ท้าที่สุดสิ่งจะเป็นตัดสินจริงๆ ก็คือ “อารมณ์” เท่านั้น ถ้าสภาวะอารมณ์มีความพร้อม มนุษย์ก็จะลงมือทำทันทีถึงแม้ว่าบางครั้งเรื่องที่ลงมือทำนั้นจะดูไร้เหตุผลอย่างที่สุดก็ตาม นี่ก็คือยิ่งใหญ่ของอารมณ์ที่ส่งผลถึงชีวิตของพวกเรา
ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า
“ผู้สามารถควบคุมอารมณ์ คือผู้สามารถควบคุมชีวิตมนุษย์”
และถ้าคุณต้องการเครื่องมือสำหรับควบคุมอารมณ์มนุษย์ที่ยอดเยี่ยม NLP ก็คือคำตอบครับ
และนี่ก็คือแกนกลางหรือหัวใจที่สำคัญที่สุดของวิชา NLP ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น