วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

Sigmund Freud: Defense Mechanism (ตอนที่ 3)

III. แบบประนีประนอมสถานการณ์ (Compromise Reaction)
เป็นลักษณะของกลวิธีการป้องกันตัวประเภทพบกันครึ่งทาง ออกมาในรูปของการหาวิธีใหม่ เปลี่ยนความต้องการ หรือเป้าหมายใหม่ซะ ซึ่งได้แก่


1. การชดเชย (Displacement) ผู้ใช้กลวิธีประเภทนี้มักจะเป็นผู้ที่รู้ข้อบกพร่องของตนเอง หรือปมด้อยของตนเอง จึงพยายามที่สร้างปมเด่นขึ้นมาเพื่อชดเชยปมด้อยนั้น ๆ รวมไปถึงการเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เมื่อคิดว่าเป้าหมายเดิมตนไม่อาจจะเอาชนะอุปสรรคที่มีอยู่ได้ ทั้งนี้การชดเชยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ
  • การทดแทน (compensation) เป็นการสร้างปมเด่นด้านอื่น ๆ ขึ้นมาทดแทนปมด้อยที่ตนมีอยู่ เช่น เป็นคนพิการ เดินไม่ได้ จึงพยายามเรียนให้เก่งจนประสบความสำเร็จเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก
  • การทดเทิด (sublimation) ผู้ใช้กลวิธีการป้องกันตัวประเภทนี้จะพยายามพัฒนาปมด้อยของตนให้กลายมาเป็นปมเด่น เช่น เป็นคนก้าวร้าวจึงหันไปเอาดีด้านชกมวยจนได้เป็นแชมป์


2. การแกล้งทำ (Reaction Formation) เรียกได้อีกอย่างว่า การแสดงพฤติกรรมตรงข้ามกับความเป็นจริง โดยที่ผู้ใช้วิธีนี้จะเก็บกดความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ ไม่กล้าแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เนื่องด้วยเหตุจำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไม่ให้บุคคลในสังคมตำหนิ หรือ เพื่อเป็นการรักษาศักดิ์ศรีของตนเอาไว้ เช่น ผู้เข้าประกวดนางสาวไทยอิจฉาเพื่อนที่ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยไปแต่กลับแสดงความดีใจออกนอกหน้าจนเกินเหตุ โดยทั่วไปผู้ที่ใช้กลวิธีประเภทนี้จะสามารถถูกสังเกตพฤติกรรมได้ง่าย เนื่องจากมักจะแสดงออกมากจนเกินไปเป็นที่ผิดสังเกต วิธีการนี้ตรงกับสุภาษิตไทยหลายสำนวนเช่น ปากหวานก้นเปรี้ยว หน้าเนื้อใจเสือ หรือ ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ผู้ที่ใช้กลวิธีนี้เป็นประจำจะทำให้มีบุคลิกภาพที่ไม่น่าเชื่อใจ จนทำให้ขาดเพื่อนและอยู่ในสังคมได้ลำบาก

3. การซัดทอดโทษผู้อื่น (Projection) พบว่ากลวิธีนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนนิยมใช้กัน ซึ่งเกิดจากเมื่อบุคคลได้กระทำความผิดขึ้นมาแล้วทำให้ตนเองนั้นรู้สึกผิด แต่เพื่อให้ความรู้สึกผิดนั้นน้อยลงจึงใช้วิธีโยนความผิดให้กับผู้อื่น ทำให้ตนเองรู้สึกสบายใจและไม่เสียหน้า เช่น ตื่นสายจึงมาเข้าเรียนไม่ทัน แต่กลับโทษว่ารถติด กลวิธีชนิดนี้ตรงกับสำนวนไทยว่า รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง ถ้าหากใช้บ่อย ๆ จะกลายเป็นผู้ที่ไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับความผิดที่ตนได้ก่อขึ้น จนไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย

4. การหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง (Rationalization) เป็นวิธีการปรับตัวที่บุคคลพยายามหาเหตุผลต่าง ๆ นานา ที่ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงขึ้นมาอ้าง เพื่อลบล้างความผิดพลาด หรือความผิดหวังที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการรักษาหน้า ภาพพจน์ และศักดิ์ศรีของตนเอาไว้ แบ่งเป็น 2 ลักษณะได้แก่
  • แบบองุ่นเปรี้ยว (sour grape reaction) เป็นลักษณะการปรับตัวแบบปลอบใจตัวเอง ด้วยการหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่ตนต้องการนั้นมีข้อบกพร่อง หรือเป็นสิ่งที่ไม่ดีพอสำหรับตนเอง เช่น ใจจริงอยากมีแฟน แต่หาแฟนไม่ได้ จึงอ้างว่ามีแฟนแล้วจะทำให้ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
  • แบบมะนาวหวาน (sweet lemon reaction) วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ตรงข้ามกับวิธีแบบองุ่นเปรี้ยว คือ สิ่งที่ตนเองได้มาในขณะนั้นเป็นสิ่งที่ตนไม่ชอบหรือมีข้อบกพร่อง บุคคลจึงต้องยกข้อดีหรือจุดเด่นต่าง ๆ ของสิ่งนั้น ๆ ขึ้นมากล่าวอ้างเป็นเหตุผลเพื่อลบข้อบกพร่องเหล่านั้นออกไป เช่น อยากได้แฟนสวย ๆ แต่ในความเป็นจริงแฟนกลับไม่สวย จึงอ้างว่าถึงแฟนไม่สวยแต่ก็เป็นคนใจดี


5. การเลียนแบบ (Identification) คือ การเลือกบุคคลบางคนมาเป็นแบบอย่างเพื่อทำตาม รวมถึงการกล่าวอ้างว่ารู้จักสนิทสนมใกล้ชิดกับบุคคลบางคน เพื่อให้ได้รับการยอมรับหรือเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น กระบวนการเลียนแบบนี้มักจะผันแปรไปตามอายุของคน ฟรอยด์ยังได้กล่าวว่าคนไม่ลอกแบบทุกสิ่งทุกอย่างจากต้นแบบ แต่เขาจะเลือกเอาเฉพาะบุคลิกภาพที่เขาต้องการเท่านั้น

6. การติดชะงัก (Fixation) โดยปกติแล้วมนุษย์เราย่อมมีพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่งตลอดเวลาตามวัย แต่สำหรับบุคคลที่ใช้กลวิธีนี้ในการปรับตัวมักจะชะงักติดในวัยใดวัยหนึ่งโดยไม่ยอมพัฒนาบุคลิกภาพต่อไป เพราะกลัวว่าหากมีพัฒนาการไปแล้วตนเองจะสูญเสียความมั่นคงทางจิตใจ หรือต้องพบกับความทุกข์ยากลำบากที่จะเกิดขึ้น เช่น พวกที่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งตลอดชีวิตไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพราะไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ จะนำมาซึ่งผลดีกับตน

7. การแสดงความเจ็บป่วยทางร่างกาย (Physical Ailment or Conversion Reaction) เป็นการแสดงวิธีการปรับตัวเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้ตนเองเป็นทุกข์ โดยร่างกายจะสร้างความเจ็บป่วยหรือพิการชั่วคราวขึ้นมาเอง โดยเจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาที่จะแกล้งป่วยหรือแกล้งทำ แต่เป็นการแสดงออกทางจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อพ้นสถานการณ์นั้น ๆ ไปแล้วอาการทุกอย่างก็จะหายไปเอง เช่น โดนเพื่อนแกล้งบ่อย ๆ จึงปวดท้องทุกครั้งที่จะต้องไปโรงเรียน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น