วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

สะกดบำบัดกับการจิตลดความอ้วน

การสะกดจิตบำบัดกับการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนนั้นเป็นเรื่องที่ทำกันมานานแล้ว ผู้รับการบำบัดหลายต่อหลายรายสามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ในวงการสั่งจิตบำบัดถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด แถมยังถือว่าเป็นเคสการสะกดจิตที่ค่อนข้างง่ายเสียด้วย หากผู้รับการสะกดจิตไม่มีการต่อต้านและสามารถคล้อยตามกรสะกดจิตได้ดี ผลของการสะกดจิตลดความอ้วนก็จะแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว สามารถลดน้ำหนักลงได้หลายกิโลได้ในเวลาไม่กี่เดือน การ
แต่สำหรับคนโดยทั่วไปนั้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้วอาจจะมีคำถามอยู่ในหัวมากมาย "มันทำได้จริงๆ เหรอ" "มันจะได้ผลเหรอ" หรือไม่ก็ "ขนาดนั้นเลย ...โม้หรือเปล่า" ที่มาของคำถามทั้งหมดนี้ ประเด็นจริงๆ มันอยู่ตรงที่ว่า การสะกดจิตจะช่วยให้คนลดความอ้วนได้อย่างไร มันมีกลไกและมีเหตุผลอย่างไรที่จะสามารถทำให้ผู้รับการสะกดจิตสามารถลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนลงได้


ก่อนอื่นต้องขอย้อนกลับที่หลักการของการสะกดจิต หรือ Hypnosis กันเสียก่อนว่าการสะกดจิตนั้นเป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่ว่าด้วยการปลูกฝังข้อมูลใหม่ที่เป็นประโยชน์ลงสู่จิตใต้สำนึก โดยอาจจะมีการลดระดับความเข้มของข้อมูลเก่าในจิตใต้สำนึกที่ไม่เป็นประโยชน์เพื่อทำให้เกิดทัศนคติใหม่ๆ หรือพฤติกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต การสะกดจิตบำบัด

กลับมาที่เรื่องของความอ้วนกันต่อ คนเราโดยส่วนใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องความอ้วนโดยส่วนมากแล้วมีต้นตอของปัญหามาจากพฤติกรรมการกินการอยู่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการชอบกินของหวาน ชอบกินของมัน ไม่ชอบกินผัก ไม่ชอบออกกำลังกาย หรือชอบกินเมื้อดึกหนักๆ อะไรทำนองนี้เป็นต้น ส่วนที่อ้างว่าเป็นกรรมพันธุ์นั้นเอาเข้าจริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมการกินการอยู่ในบ้านที่อำนวยให้เกิดความอ้วนเท่านั้น จะหาที่อ้วนที่เกิดจากความบกพร่องหรือความผิดปรกติทางร่างกายจริงๆ นั้นยากมาก (ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ รูปแบบการสะกดจิตก็จะมีความแตกต่างออกไป โดยจำเป็นจะต้องมีการบำบัดรักษาทางการแพทย์ร่วมด้วย)

การสะกดจิตลดความอ้วนนั้นไม่ได้เป็นการสะกดจิตเพื่อให้น้ำหนักตัวลดลง ไม่ได้สะกดจิตเพื่อไปทำให้ไขมันที่สะสมละลาย (เพราะมันทำไม่ได้) และก็ไม่ได้สะกดจิตเพื่อให้เจ้าตัวคิดไปเองว่าผอมด้วย หากแต่เป็นการลดความเข้มข้นของข้อมูลในจิตใต้สำนึกในส่วนที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมการกินการอยู่ที่เป็นบ่อเกิดของความอ้วน เช่นชอบกินของหวาน ชอบกินของมัน ชอบกินอาหารตอนดึก หรือไม่ชอบการออกกำลังกาย แล้วเสริมด้วยการปลูกฝังข้อมูลใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักลงไปในจิตใต้สำนึก เช่นทำให้รู้สึกไม่ชอบกินของหวานหรือของมัน ทำให้ไม่มีความรู้สึกอยากกินตอนดึก ทำให้รู้สึกว่าการทานผักผลไม้มีความสุข มีความรู้สึกอร่อย ทำให้มีความเคยชินที่จะทานอาหารจำนวนน้อยๆ แล้วอิ่มในทันที หรือทำให้มีอุปนิสัยชอบออกกำลังกาย ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานี้เป็นการจัดการกับข้อมูลในระดับจิตใต้สำนึก เมื่อจิตใต้สำนึกมีข้อมูลที่ดี ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ข้อมูลเหล่านี้จะผลักดันให้เกิดพฤติกรรมที่ดีโดยอัตโนมัติ (หมายความว่าไม่เป็นการฝืนทำ) เมื่อมีพฤติกรรมการกินการอยู่ที่ดีแล้ว น้ำหนักของผู้รับการสะกดจิตจึงลดอย่างรวดเร็ว การสะกดจิตบำบัด

มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะคิดว่า "ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ต้องเสียเวลาสะกดจิตก็ได้มั้ง แค่เลิกกินของอ้วน หันมากินอะไรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นผักหรือผลไม้ แล้วออกกำลังกายเพิ่มซักหน่อยก็ผอมได้เหมือนกัน" ตรงนี้ก็เป็นความคิดที่ถูกต้องอย่างจริงแท้แน่นอน เพราะลองถ้างดกินของอ้วน กินแต่ของมีประโยชน์ไม่ก่อให้เกิดการสะสมไขมัน แล้วออกกำลังกายบ้าง น้ำหนักที่พอกพูนมันก็จะลดไปเองได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ปัญหาโลกแตกที่แก้กันไม่ตกก็คือ

"คิดได้แต่ทำไม่ได้" หรือถ้าทำได้ "ก็จะฝืนใจทำได้ซักกี่น้ำ" การสะกดจิตบำบัด

นี่ต่างหากที่เป็นประเด็นหลัก ซึ่งในส่วนนี้การสะกดจิตบำบัดจะมีประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะการสะกดจิตบำบัดเป็นการเข้าไปแก้ไขข้อมูลในจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมทั้งหมด เมื่อข้อมูลในจิตใต้สำนึกเปลี่ยน พฤติกรรมก็เปลี่ยนตามไปเองโดยธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องฝืนความรู้สึกแต่อย่างใด

ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการลดความอ้วน สิ่งที่อยากให้ทำเป็นอย่างแรกคือลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ของตัวเองดู เปลี่ยนกินแต่ของที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ งดของที่มีแคลอลี่สูงๆ แล้วหาเวลาออกกำลังกายให้มากขึ้นอีกซักนิด เพียงแค่นี้น้ำหนักก็ลดได้ไม่ยากแล้วล่ะครับ แต่ถ้าฝืนใจทำไม่ได้หรือทำไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ท้อเสียแล้ว ก็ลองปรึกษานักสะกดจิตบำบัดดู นี่อาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีและปลอดภัยสำหรับคุณครับ การสะกดจิตบำบัด

Poonsak Tana. C.Ht., NLP.


ศูนย์ให้คำปรึกษาและสะกดจิตบำบัด









1 ความคิดเห็น: